ผู้ใดได้รับอภิสิทธิ์,
ผู้นั้นต้องตอบแทนความเสียสละของคนอื่น
เพราะเขาเปรียบเสมือนผู้กินอาหารทั้งหมด
ซึ่งชาวบ้านที่หิวโหยมอบให้เลี้ยงดูกัน
ด้วยหวังว่า เขาจะเกิดกำลังด้นดั้นไปหาอาหารจากแดนไกล
ถ้าเขากินอาหารของชาวบ้านหมด
แล้วไม่ช่วยอะไรเลย เขาคือผู้ทรยศ
เช่นเดียวกัน
ถ้าหนุ่มสาวผู้ได้รับการศึกษาสูง
โดยประชาชนช่วยกันเสียค่าใช้จ่าย
แล้วกรีดกรายนึกว่าตนเองเหนือกว่าคนอื่น
หรือไม่พยายามนำความรู้ไปช่วยพัฒนาบ้านเมือง
เขาก็เป็นผู้ทรยศเช่นกัน
จูเลียส ไนเยียเร
ได้ อ่านข้อความข้างบนมานานมากแล้ว ตั้งแต่สมัยเรียน ปี 1 ตอนที่ไปช่วยเพื่อนทำกิจกรรมที่ อมธ. (เราไม่ได้อยู่ มธ. หรอกแต่อยู่ลาดกระบัง ) อ่านแล้วรู้สึกชอบมาก โดนใจอย่างแรง จำได้ว่าจดไว้ในสมุดบันทึก แต่หาสมุดเล่มนั้นไม่เจอ คิดว่าคงอยู่ในกล่องใดกล่องหนึ่งที่บ้านคุณแม่ โชคดีที่ปัจจุบันมีอินเตอร์เน็ต และมีอีกหลายท่านที่ชอบขอ้ความนี้เช่นเดียวกัน จึงทำให้สามารถค้นหา ข้อความนี้ได้อีกครั้ง มีใครบางคนเขียนเพิ่มเติมท้ายข้อความข้างต้นใน Blog ที่หาข้อความนี้พบว่า
“ทำไม ผู้ทรยศ จึงเดินเกลื่อนกล่น หรือว่าความทรยศคือความชอบธรรมไปเสียแล้ว”
ผู้นั้นต้องตอบแทนความเสียสละของคนอื่น
เพราะเขาเปรียบเสมือนผู้กินอาหารทั้งหมด
ซึ่งชาวบ้านที่หิวโหยมอบให้เลี้ยงดูกัน
ด้วยหวังว่า เขาจะเกิดกำลังด้นดั้นไปหาอาหารจากแดนไกล
ถ้าเขากินอาหารของชาวบ้านหมด
แล้วไม่ช่วยอะไรเลย เขาคือผู้ทรยศ
เช่นเดียวกัน
ถ้าหนุ่มสาวผู้ได้รับการศึกษาสูง
โดยประชาชนช่วยกันเสียค่าใช้จ่าย
แล้วกรีดกรายนึกว่าตนเองเหนือกว่าคนอื่น
หรือไม่พยายามนำความรู้ไปช่วยพัฒนาบ้านเมือง
เขาก็เป็นผู้ทรยศเช่นกัน
จูเลียส ไนเยียเร
ได้ อ่านข้อความข้างบนมานานมากแล้ว ตั้งแต่สมัยเรียน ปี 1 ตอนที่ไปช่วยเพื่อนทำกิจกรรมที่ อมธ. (เราไม่ได้อยู่ มธ. หรอกแต่อยู่ลาดกระบัง ) อ่านแล้วรู้สึกชอบมาก โดนใจอย่างแรง จำได้ว่าจดไว้ในสมุดบันทึก แต่หาสมุดเล่มนั้นไม่เจอ คิดว่าคงอยู่ในกล่องใดกล่องหนึ่งที่บ้านคุณแม่ โชคดีที่ปัจจุบันมีอินเตอร์เน็ต และมีอีกหลายท่านที่ชอบขอ้ความนี้เช่นเดียวกัน จึงทำให้สามารถค้นหา ข้อความนี้ได้อีกครั้ง มีใครบางคนเขียนเพิ่มเติมท้ายข้อความข้างต้นใน Blog ที่หาข้อความนี้พบว่า
“ทำไม ผู้ทรยศ จึงเดินเกลื่อนกล่น หรือว่าความทรยศคือความชอบธรรมไปเสียแล้ว”
อ่านแล้ว ย้อนถามตัวเองว่า แล้วเราเองล่ะเป็น “ผู้ทรยศ” คนหนึ่งด้วยหรือเปล่า?